Blood The Last Vampire (2009) Full HD KUBHD.COM

Blood The Last Vampire

Blood The Last Vampire ในปี 1970 ซายะซามูไรมากมายความสามารถอายุสี่ร้อยปีถูกส่งไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษาคันโตในฐานทัพอเมริกันในเมืองโตเกียวโดยที่ประชุมสัมพันธ์ลับที่ล่าแวมไพร์มานานหลายศตวรรษ ซายะมีรูปร่างราวกับวัยรุ่น แต่ว่าเป็นสัตว์ลูกครึ่งที่ถูกทารุณด้วยจิตวิญญาณของบิดาที่เป็นมนุษย์ของคุณแล้วก็พลังและก็สิ่งที่จำเป็นเลือดของแม่แวมไพร์ของคุณ

คุณหมกมุ่นอยู่กับการเผชิญหน้ากับภูติผีปีศาจที่ทรงอำนาจ Onigen ที่ฆ่าบิดาของคุณ Blood The Last Vampire ในฐาน Saya ช่วย Alice McKee ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายพล McKee แล้วก็ผู้บังคับบัญชาของฐานจากการจู่โจมของแวมไพร์หลายตัว เมื่อนายพลแมคคีถูกสมาชิกสภาฆ่าตายอลิซก็เลยวิ่งไปที่อพาร์เม้นท์ที่ซายาพักอยู่ พวกเขาร่วมกองกำลังแล้วก็ไปที่บ้านนอกเพื่อไล่ล่า Onigen

Blood: The Last Vampire (2009) – Trailer |

Blood The Last Vampire (2009) ยัยตัวร้าย สายพันธุ์อมตะ

รูปลักษณ์ภายนอกของ ซายะ (จวน จีฮุน) เป็นเด็กสาววัย 16 บริเวณใบหน้างาม แม้กระนั้นภายใต้ความเยาว์วัย เป็นจิตวิญญาณลูกผสมที่ทนทรมานมานานกว่า 400 ปี ด้วยเหตุว่าพ่อเป็นมนุษย์ แม้กระนั้นแม่เป็นแวมไพร์ ลูกผสมอย่างคุณก็เลยจำเป็นต้องทนอยู่อย่างสันโดษมานานนับศตวรรษ โดยถือมั่นอยู่กับการทำลายโลกของแวมไพร์ให้หมดไปด้วยความชำนิชำนาญยกตัวอย่างเช่นซามูไร ตอนที่เอาใจใส่ดีว่าตัวเองนั้นสามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยเลือดไม่แตกต่างจากเชื้อสายที่คุณกำลังล่าล้าง

ต่อเมื่อหน่วยงานลับที่คุณขึ้นกับมอบหมายให้ไปปฏิบัติภารกิจที่ฐานทัพอเมริกาในกรุงเมืองโตเกียว ซายะก็รู้ทันครั้งว่าหนทางที่จะได้ถอนรากถอนโคนนายใหญ่ผู้เหี้ยมโหดอำมหิตของเหล่าแวมไพร์ โน่นเป็น โอนิเจน (โคยูคิ) อาจมาถึงแล้ว คุณเริ่มใช้พลังเหนือมนุษย์และก็กระบี่คู่กายตะลุยกำจัดความทารุณไร้มนุษยธรรมไปบ่อย

ด้วยท่าทางอันสง่างามและน่าตื่นเต้น ก่อนจะคุณจะได้เชื่อมสมาคมกับบุตรีของนายพลประจำฐานทัพ อันเป็นมิตรภาพกับมนุษย์หนแรกในรอบหลายๆศตวรรษ ทั้งเป็นครั้งแรกที่คุณเอาใจใส่ว่าควรที่จะใช้พลังเก่งเหนือโอนิเจนที่มีอยู่กับตัวเพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีกับมนุษย์โลก

ผู้คุมงานสร้างเลื่องลือ ใบรับเงินล์ คอง (จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon รวมทั้ง Hero) และจากนั้นก็ อาเบล นาห์ไม่อาส (จาก 11 Commandments และ La Beuze) จับกลุ่มกับผู้กำกับหนัง คริส นาอง (จาก Kiss of the Dragon) เพื่อประดิษฐ์ผลงานภาษาอังกฤษนำเสนอการเสี่ยงภัยล่าล้างแวมไพร์ในโลกที่ความอยู่รอดขึ้นอยู่กับหญิงสาวโฉมสะคราวญก็แค่สิ่งเดียวเท่านั้น

แอ็กชั่นทริลเลอร์เรื่องใหม่ภายใต้การดูแลของ คริส ท้องทุ่งอง เรื่องนี้ ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดฮิตอย่างยิ่งของขึ้นอยู่กับ โปรดักชั่น ไอ.จี ในชื่อเดียวกันคือBlood: The Last Vampire ซึ่งออกฉายทั่วโลกไปแล้วในปี 2000 อันเป็น 48 นาทีที่ความลุ้นระทึกจากความรู้ความเข้าใจการควบคุมของ ฮิโรยูกิ คิตาคูโบะ (ผู้เป็นแกนหลักในการสร้างภาพขยับเขยื้อนในแอนิเมชั่นซึ่งดูแลโดย คัตสึฮิโร โอโตโมะ เรื่อง Akira)

เรื่องราวปะทุขึ้นในประเทศประเทศญี่ปุ่นตอนฤดูใบไม้ร่วงปี 1966 อันเป็นปีเดียวกับที่อเมริกาตกลงปลงใจก้าวเข้าสู่การสู้รบเวียดนามสุดกำลัง ภาพยนตร์นั้นถ่ายทอดเรื่องราวของหญิงสาวชื่อ ซายะ ผู้มีอาวุธคู่กายเป็นกระบี่ญี่ปุ่น เมื่อครั้งที่หน่วยงานลึกลับส่งตัวคุณไปล่าล้างเหล่าแวมไพร์ที่ซ่อนตัวปนอยู่กับผู้คนในฐานทัพโยโกตะ อันเป็นฐานที่มั่นของกองทัพอากาศอเมริกา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเมืองโตเกียวคร่าวๆ 30 กิโลเมตร

รีวิว

เป็นภาพยนตร์ที่ผลิตจากอนิเมชั่นทารุณเลือดสาดที่โด่งดังเรื่องหนึ่งในอนิเมชั่นของญี่ปุ่นที่มี Hiroyuki Kitakubo เป็นผู้สร้างสรรค์ แถมยังไปครอบครองรางวัล World Animation Celebration ในปี 2001 อีกต่างหาก นอกจากเรื่องของความเหี้ยมโหดแล้ว

ส่วนของเรื่องราวยังสะท้อนด้านมืดในจิตใจของดาราออกมาอย่างถึงแก่นพร้อมบรรยากาศมืดหดหู่ชักชวนอึดอัดที่ปรากฏแทบจะตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งถือได้ว่าเป็น “เอกลักษณ์” ของ Blood: The Last Vampire ครับ Blood The Last Vampire และคราวหลังออกฉายหนแรกมันก็ยังเป็นต้นแบบในกับอนิเมชั่นแนวนี้ในอีกหลายเรื่อง

จนถึงกระทั้งมาถูกฮอลลีวู๊ดซื้อสิทธ์ไปสร้างเป็นฉบับภาพยนตร์จนได้ นับจากนั้นมามันก็แปลงมาเป็นโปรเจคที่แฟนๆประเด็นนี้คอยคอยอย่างใจจดใจจ่อ แค่นี้ไม่พอด้านหลังทางผู้สร้างประกาศชื่อของนักแสดงสาวเบอร์หนึ่งของทวีปเอเชีย

“Jeon Ji-Hyeon” ว่าจะมารับบทศิลปิน “ชายะ” ก็ยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้เป็นที่น่าจับตาจากทวีปเอเชียเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วยความหวังที่ว่ามันจะกลายเป็นหนังที่ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จและก็เป็นก้าวแรกให้นางเอกยัยตัวร้ายของเราแจ้งเกิดสู่ฮอลลีวู๊ดอย่างเต็มๆตัวอีกด้วย

ถึงแม้เอาเข้าที่เข้าทางจริงแล้ว Blood: The Last Vampire ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์กลายผลงานที่จัดว่าทำออกมาได้ “ค่อนข้างจะน่าผิดหวัง” ครับ หากแม้ตัวหนังจะดูมี “สไตล์” เป็นของตนเองชัดก็ตาม ซึ่งอย่างนึงที่ทำให้หนังหัวข้อนี้ที่เป็นปัญหาก็คือเรื่องของ “บท” แล้วก็การเล่าเรื่องของเพศผู้ควบคุม “Chris Nahon” ที่อืดอาดยืดยาดแล้วก็ไม่น่าสนใจในหลายตอนของตัวหนัง ส่วนเรื่องของการคุมโทนหนังนั้น แม้หนังสามารถดึงเอาบรรยากาศมืดหดหู่จากของเดิมออกมาได้ค่อนข้างจะดีในตอนครึ่งแรกของเรื่อง

แม้กระนั้นต่อมาดูราวกับว่าเพศผู้ดูแลจะมัวไปห่วงถึงแม้ฉากแอคชั่นจนกระทั่งทำให้โทนหนังหลุดออกไปบ้างในช่วงท้ายๆแถมสเปแรงเอฟเฟ็กจำแลงของแวมไพร์ยังมองดูไม่เนียนเลยอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าก็ไม่ใช่ว่าหนังหัวข้อนี้จะไม่มีข้อดีเลยจ้านะครับ

เพราะในเรื่องของฉากแอคชั่น การถ่ายภาพ แล้วหลังจากนั้นก็ มุมกล้องที่มีไว้ถ่ายรูป ต่างๆหนังเรื่องนี้สามารถทำออกมาล้ำหน้าทีเดียว รวมทั้งการเปลี่ยนหน้าที่การแสดงของ “Jeon Ji-Hyeon” ที่ทำเป็น “ดี” และอาจจะบอกได้ว่าการแสดงของคุณในเรื่องเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งที่ช่วยผยุงหนังหัวข้อนี้เอาไว้ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง แทนที่เรื่องของสเปแรงเอฟเฟ็คและตัวบทที่น่าผิดหวัง

Teenage Terminatrix - The New York Times

รีวิว Dream บอลโลกคนไร้ที่พักพิง อบอุ่น เชื้อเชิญยิ้ม ปลื้มใจ แถมมีบรรยายไทยด้วยนะ

ในวันที่อ่อนล้า ต้องการหาหนังอบอุ่นใจมองสักเรื่อง ‘Dream – ดรีม’ จาก Netflix ก็เข้ามาได้ถูกจังหวะพอดิบพอดี นี่เป็นหนังคอมเมดี้ที่ดูแล้วอมยิ้มตามไปทั้งยังเรื่อง แอบมีดราม่าเล็กๆเพิ่มเข้ามาเป็นรสซ่อนเร้น แถมให้พวกเราได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงว่ายังมีฝูงชนขอบอย่างคนไร้ที่พักพิงมากมายก่ายกองที่รอคอยโอกาสแล้วก็ความให้การช่วยเหลืออยู่ ที่สำคัญยังได้ พัคซอจุน (Park Seo Joon) แล้วก็ ไอยู (IU / Lee Ji Eun)

สวมบทบาทนำ แล้วก็ยังมีบรรยายไทยระดับประสิทธิภาพให้เลือกรับดูอีกด้วย‘Dream’ เล่าราวของ ยุยงนฮงแด (รับบทบาทโดย พัคซอจุน) นักเตะอาชีพอนาคตไกล แต่จะต้องมาดับเนื่องจากไปประทุษร้ายผู้สื่อข่าวปากหมา ทำให้เว้นแต่ถูกลงโทษทางระเบียบแล้ว เขายังถูกส่งเข้าแวดวงหรรษาแบบไม่เต็มใจเพื่อมากู้ภาพลักษณ์ ให้มาเป็นผู้ฝึกสอนกลุ่มบอลคนไม่มีบ้าน

เพื่อลงแข่งขันระดับนานาชาติคว้าชัยในรายการ Homeless World Cup ในอีกสองเดือนด้านหน้าให้ได้ แม้กระนั้นการยืมภาพลักษณ์ในคราวนี้ไม่ใช่แค่การมาเป็นผู้ฝึกสอนแบบปกติ เนื่องจากทั้งหมดทั้งปวงจะถูกถ่ายทำเป็นสารคดีโดย อีโซมิน (สวมบทโดย ไอยู) โปรดิวเซอร์สาวสุดกวนที่เข้ามาทำให้เรื่องราวป่วนปั่นขึ้นไปอีกภาพยนตร์เรื่อง ‘Dream’ เป็นภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ดราม่า อบอุ่นหัวใจ ความยาว 2 ชั่วโมง 5 นาที

ผลงานของ อีบยองฮอน (Lee Byeong Heon) รับอีกทั้งหน้าที่ผู้กำกับและก็เขียนบท ประกันประสิทธิภาพด้วยผลงานในอดีตกาลอย่าง Mr. Lee (2013) Twenty (2015) และก็ Extreme Job (2019) ส่วนในคราวนี้ขอมาเล่าในต้นแบบคอมเมดี้ฟีลกู๊ดครบสูตรดูแล้วดีต่อดวงใจจะต้องเห็นด้วยว่าความเพียรพยายามที่จะใส่ไอเท็ม Y2K ของหนังประเด็นนี้เข้ามา Blood The Last Vampire จัดว่าค่อนข้างจะเอาใจใส่ดี ไม่ว่าจะเป็น เกมโทรศัพท์มือถือมีชื่อก่อนหน้า

ความประพฤติเช่าหนังสือการ์ตูนอ่าน, ไอค่อนเซ็กซีสตาร์ประจำสมัย หรือ สถานะการณ์สำคัญกับแวดวงเพลงป็อปตอนนั้น ต่างถูกใส่เข้ามา แต่ว่าไม่ค่อยรู้จักที่ดินสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะตั้งใจดีแต่กลับลืมเก็บเนื้อหานิดๆหน่อยๆไปอย่างโชคร้าย ทำให้หลายฉากในนั้นหัวข้อนี้ยังไม่ค่อยเหมือนจริงกับการนำผู้ชมย้อนเวลาไปสู่ตอนต้นปี 2000s โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอบล้อมต่างๆที่ยังเอาใจใส่ได้น้อยเกินไป

แม้กระนั้นก็ยกย่องว่าการเลือกสถานที่ถ่ายทำแล้วก็เบื้องหลังเป็นหลักที่ จังหวัดเมืองจันท์ เป็นป้อมที่ดีสำหรับการทำหนังย้อนยุคกลับไปตอน Y2K ด้วยเหตุว่าห้อมล้อมต่างๆตรงนั้นยังนับว่าออกจะกับยุคที่อยากเล่าได้อยู่ โดยพื้นที่ก็ชอบเป็นตัวเลือกแรกของโปรดักชันต่างๆที่ต้องการจะทำคอนเทนท์แนวนี้ หนังดังในอดีตกาล อย่าง แฟนฉัน ก็เคยเล็งจะมาใช้สถานที่นี้

แต่ว่าคิดปัญหาที่ระยะค่อนข้างจะไกล แล้วก็ประเด็นนี้ก็ถ่ายทอดความเป็นเมืองจันท์ ในมุมมองแล้วก็ทิวทัศน์ที่งามออกมาเจริญสมใจอยาก เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์และก็ลายเส้นของผู้กำกับคนนี้เขาล่ะฉะนั้นโดยภาพรวมแล้ว It Lives Inside ขังภูติผีปีศาจบ้า จัดได้ว่าเป็นหนังสยองขวัญที่ค่อนข้างจะไปในทางอินดี้สักนิดสักหน่อย แม้ว่าจะเป็นเส้นเรื่องรวมทั้งคอนเซ็ปต์ของหนังที่แข็งแรงดี

แม้กระนั้นปรากฏว่ายังค่อนข้างจะขัดข้องด้วยแนวทางเล่ารวมทั้งพรีเซนเทชั่นให้มองคลุกกับอารมณ์ได้ยังไม่ค่อยสุดทางสักเท่าไหร่นัก โปรดักชันงานสร้างถูกใจ การแสดงพอได้ บางครั้งอาจจะเป็นหนังที่มองได้เรื่อยกลับยังไม่มีอะไรให้เชื่อตามสักเท่าไหร่ เป็นความรู้สึกอาจก่อให้ผิดหวังไปนิดหน่อย

Blood: The Last Vampire - Publicity still of Koyuki

รีวิว Meg 2 The Trench หนังปลาฉลามสายเบิกบาน สาระช่างมันเถอะขออวดชุ่มฉ่ำๆ

5 ปีกลายคงจะไม่มีผู้ใดมีความคิดว่า ‘The Meg’ จะเปิดศักราชใหม่ของ “หนังปลาฉลาม” ให้แก่วอเนอร์ บราคุณร์ส (Warner Bros.) ในฐานะหนังไซไฟร่วมสร้างระหว่าง จีน กับ อเมริกา ที่บรรลุผลสำเร็จด้านรายได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนแล้วก็ความฉลาดอย่างหนึ่งของ ‘The Meg’ เป็นการดึงแอ็กชันสตาร์อย่าง เจสัน สเตแธม (Jason Statham) มารับบทนำคู่กับผู้แสดงจีนเพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้ชาวโลกได้อย่างชาญฉลาด

มาปีนี้ ‘Meg 2:The Trench’ กลับมาพร้อม เบน วีทลีย์ (Ben Wheatley) ผู้กำกับใหม่แต่ว่ายังคงไว้ซึ่งอะไหล่เดิมทั้งยัง สเตแธม,คลิฟ เคอร์ทิส (Cliff Curtis) แล้วก็ เพจ เคนเนดี้ (Page Kennedy) ในบทลูกไล่ของดารานำชาย หรือจนกระทั่ง ยกหยา โซเฟีย ไช่ (Shuya Sophia Cai) ในบทเหมยอิง บุตรสาวของผู้แสดงนางเอกภาคแรก โดยเหตุการณ์ในหนังภาคนี้ก็กำเนิดวิกฤติเมื่อแผนตรวจสอบห้วงมหาสมุทรของกลุ่มผู้แสดงนำชายและก็ ดร. จิวหมิง (อู๋ จิง)

น้องชายนางเอกภาคแรกดำลงไปยังร่องมหาสมุทรแล้วก็พบว่ามีคนลักลอบระเบิดหินใต้มหาสมุทรจนกระทั่งทำให้ปลาฉลามเม็กกะโลดอนตัวมหึมารวมทั้งน้ำหมึกยักษ์หลุดออกมาและก็มุ่งหน้าไปสู่เกาะมหาบันเทิงใจจัดเตรียมงับผู้คนทางฝั่งการแสดงแปลงเป็นว่าบทหนังที่ค่อนข้างจะมีเนื้อเหลวไปสักนิด Blood The Last Vampire ไม่อาจจะสร้างเสน่ห์ใดๆก็ตามให้กับทุกนักแสดงออกมาได้เลย

ทุกติดอยู่แรกเตอร์เปลี่ยนเป็นผู้แสดงที่ใส่เข้ามาเฉยๆแบบไม่มีปฏิกิริยาอะไรก็แล้วแต่ซึ่งสามารถสร้างความผูกกับผู้ชมได้เลย ในขณะที่กลุ่มผู้แสดงก็แน่นเอียดเต็มหน้าจอไปหมด แต่ว่าหนังยังล้มเหลวกับการผลิตภาพจำด้วยกลเม็ดของตน มั่นใจว่ามองจบ..พวกเราบางทีอาจจะคิดชื่อจริงละครบางตัวไม่ออกเสียด้วยซ้ำแม้กระนั้น “ณัฎฐ์ ธุระจริต” เป็นนายหามประจำประเด็นนี้ให้โดยแท้จริง เขาแสดงให้เห็นว่าดาราหนังมือโปรและก็ตัวจริงเป็นเยี่ยงไร

ด้วยลีลาท่าทางการแสดงทะเล้นๆกวนๆเป็นธรรมชาติ wowgame009 ที่แปลงเป็นว่าเขาใช้ความสามารถการเป็นแสดงของตนมาสร้างเสน่ห์ให้กับนักแสดงของเขาได้เองอย่างน่าประทับใจ นี่ก็เลยแปลงเป็นหนึ่งในละครและก็น่าจะเป็นค้างแรกเตอร์เดียวที่ผู้ชมจะนึกออก แล้วก็หลงเสน่ห์ไปพร้อมเพียงกันบทหนังปรับเปลี่ยนจากนิยาย ‘The Trench’ ของ สตีฟ อัลเทน (Steve Alten) คนเขียน ‘The Meg’ ต้นธาราของหนังภาคแรก

โดยตอนนี้มันก็อาศัยความเป็นหนังภาคต่อสำหรับการไม่เล่าที่มาอะไรทั้งปวง ด้วยเหตุว่าผู้ชมรู้จักกับนักแสดง โจนาส เทย์เลอร์ ของสเตแธมอยู่แล้ว และก็ครั้งนี้สิ่งที่โจนาสจำต้องพบเจอก็แค่ลงยานตรวจรวมทั้งช่วยกลุ่ม ดร. จิวหมิงกับเหมยอิงให้ไม่เป็นอันตรายโดยมีตัวละครสมทบที่หนังจะเบาๆฆ่าให้ตายตามกันไปเพื่อลดภาระหน้าที่สำหรับการเล่า ซึ่งด้วยเสน่ห์ของสเตแธมก็จำต้องเห็นด้วยว่าเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมยังอยู่กับหนังได้