เฟสเขียว SEOหมายถึงกระบวนการทำให้เว็บของคุณติดหน้าแรกบน Search result อย่างเช่น Google เพื่อไม่ว่าใครจะหาอะไร ก็พบเว็บของคุณที่พร้อมจะให้คำตอบในสิ่งที่คนถามบนหน้าการค้นหานั้น ยิ่งตำแหน่งที่อยู่แสดงผลลัพธ์สูงเยอะแค่ไหน ยิ่งเพิ่มจังหวะให้คนเข้าถึงเว็บมากมายเพียงแค่นั้น และก็บางทีอาจได้ยอดจำหน่ายในในที่สุด
ถ้าเกิดคุณเป็นเจ้าของธุรกิจแบบใหม่หรือผู้ที่กำลังพึงพอใจสำหรับเพื่อการทำธุรกิจออนไลน์ แล้วก็มีเว็บแล้ว ถามหน่อยเถิดว่าหากเสียเงินเสียทองว่าจ้างคนสร้างเว็บไปตั้งหลายแสน แม้กระนั้นเดือนๆนึงมีคนเข้ามามองน้อยนิด แล้วผลกำไรหรือยอดจำหน่ายจะได้คุ้มกับการลงทุนที่เสียไปเมื่อไร… พวกท่านทั้งหลายแหล่บางทีอาจจะจะต้องเคยทราบคำว่า “SEO” ผ่านๆหูกันมาบ้างว่า SEO เป็นยังไง หรือถ้าเกิดไม่รู้เลยว่า คุณยิ่งจะต้องไม่พลาดเนื้อหานี้
SEO หรือ Search Engine Optimizationเป็นกระบวนทางการตลาดดิจิทัลที่ทำให้เว็บของคุณติดหน้าแรกสำหรับการค้นหา (บนหน้า Google) ยิ่งเว็บอยู่สูงเท่าใด ยิ่งได้โอกาสให้คนเห็น ถูกคลิก รวมทั้งบางครั้งก็อาจจะได้ยอดจำหน่าย&ผลกำไรในตอนท้าย
ซึ่ง SEO สามารถจะมีผลให้เว็บอย่างแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือธุรกิจบริการ สามารถขึ้นหน้าแรกของ Google เมื่อมีการค้นหาด้วยคำ Keyword ที่เกี่ยวพันที่คนทำ SEO ระบุเอาไว้ โดยมิได้เป็นการซื้อประชาสัมพันธ์เพื่อที่แสดงผลลัพธ์บน Google (Google Ads) เฟสเขียว โดยวิธีการทำนั้นจำเป็นต้องอาศัยส่วนประกอบต่างๆอีกทั้งการใช้ Content แบบ Onsite, Outreach, Blog รวมทั้งการใส่ Keyword รวมทั้งแนวทางการทำ Backlink ที่นับว่าเป็นส่วนสำคัญสำหรับในการทำให้เว็บของคุณไต่ชั้นจากหน้าด้านหลังๆขึ้นมาจนกระทั่งหน้าแรกได้แบบ Organic
วิธีการทำ SEO นี้มิได้เฉพาะเจาะจงในเรื่องดึงรายละเอียดออกมาจัดลำดับ แม้กระนั้นยังรวมทั้ง การดึงรูป แล้วก็วีดีโอ ออกมาให้คนพบเห็นได้ด้วย ซึ่ง SEO จำต้องอาศัยอีกทั้งช่วงเวลาและก็การทำงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อเห็นผลลัพธ์ในระยะยาว
รวมทั้งตามที่ SEO นั้นไม่ต้องเสียเงินเสียทองให้ Google แม้กระทั้งบาทเดียว สิ่งที่จำต้องทำก็เลยเป็นการปรับปรุงแล้วก็จัดระบบเว็บไปพร้อมๆกับการปรับปรุงแก้ไข Content เพื่อสร้างโครงข่ายสู่การเพิ่มความสามารถเว็บของตนเองจนถึง Google มีความคิดเห็นว่าเว็บไซต์นั้นๆมีประสิทธิภาพสำหรับการยั่วยวนใจผู้เข้าชม รวมทั้งตอบปัญหาผู้ใช้ ก็เลยจะเบาๆเลื่อนลำดับหน้าเว็บไซต์ ให้ขึ้นมาอยู่บนหน้าแรก ยิ่งเป็นตำแหน่งแรก (เหนือสุด) ด้วยแล้วนับว่าเป็นตำแหน่งที่ดีเยี่ยมที่สุด ที่ทุกธุรกิจต่างแก่งแย่ง
ก่อนที่จะไปสู่เนื้อหารายละเอียดอันอัดแน่นตอบปัญหาเกี่ยวกับ SEO พวกเราจะขอนำความหมายของศัพท์เฉพาะต่างๆมาให้ท่านได้ทำความรู้จักเพื่อไม่ยุ่งยากต่อการทำความเข้าใจในรายละเอียดทั้งปวงถัดไป
- Search Engineเป็นสิ่งที่ใช้ในการค้นหา ตัวอย่างเช่น Google, Yahoo, Bing
- Rankingเป็นการจัดชั้นหน้าเว็บเมื่อค้นหา
- Blogหมายถึงบทความที่ถูกเขียนเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการให้ความรู้ความเข้าใจ ให้ความเห็น ความสนุกสนาน ไม่มีการแอบแฝงประชาสัมพันธ์ และก็สรุปหัวข้อจบใน 1 บทความ
- Onsiteหมายถึงใจความหรือเนื้อหาที่ปรากฎบนหน้าเว็บ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข้อมูลบริการ เนื้อหาบริษัท อื่นๆอีกมากมาย
- SEO Outreachเป็นบทความที่ถูกส่งไปเพื่อลงในเว็บอื่นๆที่ไม่ใช่เว็บของตน ซึ่งจะมีการใส่ลิงก์รวมทั้งKeywordลงไปเพื่อคุณคลิกแล้วกลับเข้ามาที่หน้าเว็บของผู้ครอบครองบทความ
- Optimiseหมายถึงการจัดการดูแลเป้าหมายเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
- Keywordเป็นคำที่ใช้เพื่อการค้นหา
- Search Volumeหมายถึงปริมาณการค้นหาคำ Keyword นั้นๆว่ามีการค้นหาทั้งหมดทั้งปวงจำนวนกี่ครั้ง
- Anchor Linkหมายถึงลิงก์ที่ถูกใส่เอาไว้ภายในคำที่เป็น Keyword ต่างๆเป้าประสงค์เพื่อขยายความหมาย ข้อมูล ของคำๆนั้น โดยที่ไม่ต้องแทรกเข้าไปในบทความ
- Contentหมายถึงคำโดยรวมที่ใช้สำหรับเรียกแทนรายละเอียด โดยนับและ ตัวอักษร ภาพ และก็ส่วนประกอบอื่นๆได้แก่ Blog Content, Outreach Content อื่นๆอีกมากมาย ก็เป็น ใจความสำคัญที่เขียน รายละเอียด รวมทั้งภาพ วิดีโอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใส่เข้าไปในบทความนั้นๆ
- Backlinkเป็นลิงก์ที่ถูกใส่ไปกับคอนเทนต์ หรือถูกซ่อนเร้นอยู่ในตำแหน่งต่างๆของเว็บไซต์ด้านนอก โดยมีการวางเป้าให้ลิงก์กลับมาที่เว็บของพวกเรา (เอาไว้ใส่เอาไว้ข้างใน Outreach คอนเทนต์)
- Organicเป็นในที่นี้เป็น ความประพฤติทางด้านการตลาดที่ไม่ผ่านการซื้อโปรโมท
- Organic Searchหมายถึงคำตอบการค้นหาที่แสดงขึ้นมาบนหน้า Search result โดยที่ไม่ผ่านการชำระเงินเพื่อแสดง
มากันที่สาระสำคัญสำหรับเนื้อหานี้เป็นจะชี้แจงด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายที่สุด ให้ท่านรู้จักว่า SEO เป็นยังไงอย่างถ่องแท้เพื่อที่ว่าถ้าหากผู้ใดกันกำลังเริ่มธุรกิจหรือคิดจะสร้างหน้าร้านค้าบนโลกอินเตอร์เน็ตจะได้นำไปประยุกต์เพื่อทำ SEO อย่างมีคุณภาพ
เฟสเขียว สำคัญยังไง เพราะอะไรจำเป็นต้องทำ SEO
เนื่องจากโดยส่วนมาก การเข้าชมเว็บชอบเริ่มมาจากการค้นหาผ่านแพลตฟอร์ม Search Engine ต่างๆ(ไม่ค่อยมีคนใดกันเข้าเว็บโดยตรง) ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ Social Media สามารถดึงคนไปสู่เว็บได้เช่นเดียวกัน แม้กระนั้น Search Engine ก็ยังเป็นวิถีทางหลักสำหรับเว็บ
ที่การเสิร์ชสำคัญอย่างยิ่งก็เนื่องจาก อุปกรณ์ค้นหากลุ่มนี้สามารถมอบการเข้าถึงที่เฉพาะกรุ๊ป เฟสเขียว เข้าใจง่ายๆก็คือผู้ที่เข้าเว็บคุณจากการค้นหานั้น เขาควรมีความพึงพอใจที่จะค้นหาข้อมูลหรือซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการอยู่ก่อนแล้ว ถึงค้นหาคำต่างๆแล้วคลิกสู่เว็บของคุณได้ แตกต่างจากกระบวนการทำโปรโมทที่คนบางครั้งก็อาจจะเข้ามาเพียงแต่เพราะเหตุว่าพวกเขาเป็นกลุ่มเป้าหมายที่พวกเราตั้งเอาไว้
แน่ๆว่าหากเครื่องไม้เครื่องมือค้นหาพวกนี้ ไม่อาจจะค้นหาเว็บ หรือแม้กระทั้งเก็บข้อมูลหน้าเว็บไซต์ของคุณเข้า ฐานข้อมูลได้ การันตีว่าคุณต้องคลาดโอกาสดีๆสำหรับเพื่อการที่คนทั่วทั้งโลกจะเข้าถึงเว็บของคุณและก็คงจะไม่ต้องถามหากระบวนการทำธุรกิจเลยว่าจะเป็นเยี่ยงไร
แล้วเพราะอะไรถึงจำต้องต้องการขึ้นหน้าแรก GOOGLE หรือขั้นแรก
ไม่ใช่เพียงแค่หน้าแรกเพียงแค่นั้น แต่ว่าการได้ตำแหน่งแรกมาถือครองเป็นสิ่งที่ธุรกิจต่างๆแข่งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อเว็บของตนได้ไปอยู่ถูกจุดนั้น จากชาร์ตข้างบน (อัปเดตปัจจุบัน เดือนมิถุนายน 2021) คุณจะมองเห็นได้ว่ายิ่งตำแหน่ง (Position ในแกน X แนวระดับ) ขึ้นมาทางหน้าลำดับหนึ่งเท่าใด Click through rate (CTR) หรือปริมาณคลิกที่ได้รับหารด้วยปริมาณการแสดงผล ก็จะยิ่งพุ่งสูงมากขึ้น ความหมายเป็นยิ่งหน้าเว็บไซต์ของคุณอยู่หน้าข้างหลังหน้า 1 หรือ ชั้น 10 ลงไป ช่องทางที่คนจะเข้าไปพบเว็บของคุณจากการค้นหานั้นแทบจะไม่เหลือ แน่ๆว่าหน้า 1 แล้วก็ชั้นที่ 1 ได้รับการเข้าถึงมากที่สุดอย่างไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้
เริ่มทำ SEO ตอนไหนจะเหมาะสมที่สุด
ช่วงเวลาดีๆที่สุดสำหรับเพื่อการทำ SEO ก็คือ… “ในขณะที่คุณยังไม่มีอะไรเลยสักอย่าง” หยุดก่อน ก่อนจะคานหามกราดว่าพวกเรากวน โปรดฟังเหตุผลนิดหน่อย ที่กล่าวว่าไม่มีอะไรสักอย่างซึ่งก็คือ ให้ท่านเริ่มกรรมวิธีการวิธีการทำ SEO ซะตั้งแต่ยังไม่มีเว็บหรือคิดแผนไว้ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งขึ้นธุรกิจเลยจะดีเยี่ยม
เหตุผลก็เนื่องจากว่าคุณจะได้เตรียมพร้อมสำหรับเพื่อการพัฒนาเว็บไซต์เพื่อรองรับกับกระบวนการทำ SEO สูงที่สุดนั่นเอง เพราะว่าโดยส่วนมากแล้ว ชอบมาทำ SEO กันในช่วงเวลาที่เขียนเว็บไซต์เสร็จไปทั้งหมดทั้งปวงแล้ว ท้ายที่สุดก็คือจำต้องมานั่งปรับ แก้ หรือบางเวลาหนักมากมายก็ถึงกับขั้นจำต้องพัฒนาเว็บไซต์ใหม่ทั้งปวงอย่างยิ่งจริงๆ wowgame009 โดยเหตุนั้นทำซะตั้งแต่ยังไม่มีอะไรโน่นล่ะ เป็นคำตอบที่ถูกที่สุดแล้ว
พร้อมที่จะเริ่มทำ SEO แล้ว จำต้องทำยังไงบ้าง
โดยส่วนมากบริษัทต่างๆมากมายก็จะว่าจ้างเอเจนซี่การตลาดดูแลเรื่อง SEO ให้ปกติ เฟสเขียว แต่ว่าหลักสำคัญที่พวกเราอยากที่จะให้เจ้าของธุรกิจทำความเข้าใจกับขั้นตอนต่างๆนั้น เพื่อได้ช่วยทำให้คุณดำเนินการกับเหล่าเอเจนซี่ที่คุณจ้างได้ง่ายเพิ่มขึ้น ส่วนคนไหนกันที่กำลังศึกษาเล่าเรียนวิธีการทำ SEO หรือปรารถนาทำ SEO ด้วยตัวเองขั้นตอนพวกนี้เป็นสิ่งที่คุณจะต้องใช้ประโยชน์
1. ทำแนวทางตลาดสำหรับทำ SEO ทั้งปวง
กระบวนการทำแนวทางตลาดล่วงหน้าจะช่วยทำให้คุณคุมงบประมาณได้ โดยขั้นตอนนี้คุณอาจต้องทำไปพร้อมๆกับกลุ่มเอเจนซี่ที่คุณจ้าง เพื่อพวกเขาเสนอวิถีทางรวมทั้งการใช้งบประมาณในส่วนต่างๆว่าจะลงเงินในส่วนของแนวทางการทำ SEO เยอะแค่ไหน
ส่วนของค่าใช้จ่ายสำหรับบริการเยอะแค่ไหน ช่วงเวลากี่เดือน แล้วควรจะมีค่าใช้สอยอื่นๆเสริมไหม ซึ่งเรื่องพวกนี้แม้คุณไม่คิดแผนล่วงหน้าอาจจะก่อให้งบประมาณแย่ลงกว่าเดิมได้และก็ควรจะคุยกับผู้ที่คุณจ้างให้แจ่มชัดถึงสิ่งที่คุณจะได้ ยกตัวอย่างเช่น จะมีรายงานผลของการทำ SEO ทุกๆเดือนหรือเปล่า เปลี่ยนแปลง Keyword ได้จำนวนกี่ครั้ง ใครกันแน่จะเป็นคนระบุ Keyword ฯลฯ
2.ค้นหา Keyword ที่อยากที่จะให้เว็บคุณติดอันดับหรือเอามาทำ SEO
แม้คุณเป็นธุรกิจใหม่ยังไม่มีข้อมูลใดๆก็ตามทั้งหมด สามารถเริ่มทำได้ด้วยการค้นหา Keyword เป็นขั้นตอนแรก ซึ่งถ้าต้องการทดลองค้นหาด้วยตัวเองก็จะมีวัสดุช่วยค้นหาต่างๆดังต่อไปนี้ (ถ้าอยากใช้งานอย่างเต็มความสามารถบางครั้งอาจจะจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับบริการในบางแพลตฟอร์ม) สำคัญๆแล้ว Keyword ที่ Optimise จะต้องมี Search Volume หรือมีจำนวนการเสิร์จทุกๆเดือน และก็มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจของคุณ
Google Keyword Planner
เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ดิน Google วางแบบมาเพื่อคุณค้นหา Keyword ทั้งสามารถสำรวจได้ถึงค่าต่างๆว่าแต่ว่าละคำนั้นมีคุณภาพเป็นเยี่ยงไร เฟสเขียว จุดมุ่งหมายหลักของวัสดุนี้เป็นเอาไว้ช่วยทำให้คนทำ Google Ads สามารถคิดแผนประชาสัมพันธ์ของตนเองก้าวหน้าขึ้นแต่ว่าก็สามารถเอามาประยุกต์สำหรับงานทางด้าน SEO เพื่อมองสถิติของแต่ละ keyword ได้ด้วยเหมือนกัน
Uber Suggest
แนวทางการก็คือให้ท่านพิมพ์ Keyword ที่เพียงพอจะคิดเองได้ (จำเป็นต้องเกี่ยวกับธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองทำ) เมื่อได้ Keyword มาแล้วหลังจากนั้นก็ทดลองดูที่ Search Volume ว่าคำไหนได้รับความนิยมบ้างแล้วจึงทดลองเลือกมาสัก 3-5 คำ ก่อนก็ได้ ต่อจากนั้นค่อยเอาคำพวกนั้นที่เลือกไปขอคำแนะนำกับคนทำ SEO เพื่อไปสู่แนวทางการในขั้นตอนต่อไป
Ahrefs
อีกหนึ่งอุปกรณ์สำหรับตรวจตรา Keyword ที่เอเจนซี่นิยมใช้กัน โดยความรู้ความเข้าใจของอุปกรณ์นี้คุณสามารถวิเคราะห์ได้ว่ามีเว็บไหนบ้างที่ลิงก์มาหาเว็บไซต์แผนการที่พวกเราตั้งมั่นจะส่งลิงก์ไปมั้ย ทำให้พวกเราสามารถมองเหตุการณ์ของคู่ปรับแล้วเอามาปรับกลอุบาย SEO ของพวกเราว่าควรจะทำ Backlink จากที่ไหนหลังหรือก่อน ทั้งยังสามารถตรวจทาน Backlink ของพวกเรารวมทั้งคู่ต่อสู้ได้ มองว่าอันไหนที่แตกต่างกันบ้างทำให้พวกเราไม่ต้องไปเสียเวล่ำเวลาสร้าง Backlink ซ้ำ