Top Gun Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค

Top Gun Maverick (2022)

Top Gun Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค เป็นภาคต่อของ “Top Gun” ภาพยนตร์คลาสสิกปี 1986 ที่ทุกคนคอยมานาน และก็เกินความคาดหวังอีกทั้งในด้านข้อวิพากษ์วิจารณ์แล้วก็รายได้ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ควบคุมโดยโจเซฟ วัวสินสกี้ โดยนำทอม อาจารย์ซกลับมารับบทพีท “มาเวอริค” ไม่ตเชลล์อีกที พร้อมพล็อตเรื่องที่แก้ไขใหม่ซึ่งชื่นชมภาพยนตร์ต้นฉบับและเพิ่มมิติใหม่ที่ความลึก อารมณ์ และก็ฉากแอ็กชั่นสุดสนุก ภาพยนตร์อเมริกันแนว แอคชั่น ดราม่า ที่ออกฉายในปี คริสต์ศักราช 2022

เรื่องย่อ: เรื่องราวเกิดขึ้นหลายสิบปีภายหลังจากภาพยนตร์ต้นฉบับ มาเวอริคยังคงเป็นกัปตันในทัพเรือรวมทั้งเป็นนักบินที่กล้าที่สุดคนหนึ่งของกองทัพเรือ อย่างไรก็ดี เขาไม่ยอมรับที่จะเลื่อนขั้น โดยเลือกที่จะดำเนินงานสนิทสนมกับนักบินมากยิ่งกว่าที่จะย้ายไปดำเนินงานประจำ เค้าเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อมาเวอริคถูกเรียกตัวกลับไปที่ Top Gun เพื่อฝึกฝนนักบินแบบใหม่สำหรับภารกิจอันตรายมาก หนึ่งในนั้นเป็นกางรดลีย์ “รูสเตอร์” กางรดชอว์ (เล่นบทโดยไมล์ส เทลเลอร์) ลูกชายของเราส เพื่อนเกลอผู้เสียชีวิตของมาเวอริค ซึ่งเพิ่มความเครียดทางอารมณ์ให้กับเรื่องราว

Top Gun Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค

Top Gun Maverick (2022)

ภาพยนตร์หัวข้อนี้เอ๋ยถึงธีมของมรดก การเป็นที่ปรึกษา แล้วก็การไถ่บาป ความเกี่ยวข้องที่สลับซับซ้อนระหว่าง Maverick กับ Rooster นับว่าเป็นกระดูกสันหลังทางอารมณ์ โดย Maverick บากบั่นอย่างมากที่จะผสานอดีตกาลกับความรับผิดชอบในขณะนี้ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ตรวจความไม่อาจจะก้าวผ่านสมัยก่อนของ Maverick โดยยิ่งไปกว่านั้นความรู้สึกว่าตัวเองผิดของเขาเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ Goose ซึ่งเพิ่มน้ำหนักทางอารมณ์ที่น้อยกว่าในรูปภาพยนตร์ต้นฉบับ

ฉากแอ็กชั่น: หนึ่งในคุณลักษณะที่สะดุดตาของ “Top Gun: Maverick” เป็นฉากทางอากาศอันน่าทึ่ง ภาพยนตร์หัวข้อนี้ใช้เอฟเฟกต์จริง โดยมีเรือบินไล่จริงแล้วก็การถ่ายทำในห้องขับเครื่องบิน ทำให้ฉากแอ็กชั่นมีความสมจริงสมจังแล้วก็เข้มข้น ซึ่งไม่ค่อยประสบพบเห็นในรูปภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ยุคใหม่ ฉากต่อสู้ทางอากาศถ่ายทำอย่างเที่ยงตรง รวมทั้งผู้ชมสัมผัสได้ถึงความเร็ว อันตราย แล้วก็ความสามารถที่ต้องในภารกิจเสี่ยงสูงกลุ่มนี้ ฉากกลุ่มนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์หัวข้อนี้ได้รับคำกล่าวยกย่องว่าสามารถขยายขอบเขตของภาพยนตร์แอ็กชั่นได้

การแสดงของทอม

ทอม คุณครูซสะดุดตาในหน้าที่มาเวอริค โดยแสดงได้อย่างแน่ใจ หวั่นไหว และก็มีเสน่ห์ เหมือนปกติ ความทุ่มเทของอาจารย์ซสำหรับในการแสดงฉากเสี่ยงด้วยตัวเองทำให้ภาพยนตร์หัวข้อนี้มองสมจริงสมจังเพิ่มขึ้น การแสดงของเขาช่วยสร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติที่ถือตัวแล้วก็ซนของมาเวอริคกับด้านที่ตรึกตรองครุ่นคิดมากเพิ่มขึ้น ชี้ให้เห็นว่านักแสดงนี้ปรับปรุงไปเช่นไรตามระยะเวลา แต่ว่ายังคงตั้งมั่นในตนเอง more-sport-betting

ความระลึกถึงและก็พลังใหม่: สำหรับแฟนคลับของภาพยนตร์เรื่องแรก “Top Gun: Maverick” มอบความนึกถึงมาก ตั้งแต่เพลงประกอบภาพยนตร์อันมีชื่อเสียง (รวมทั้งการกลับมาของเพลง “Danger Zone” โดย Kenny Loggins) ไปจนกระทั่งการย้อนอดีตไปยังขณะที่น่าจำจากภาพยนตร์เรื่องแรก อย่างไรก็ดี ภาพยนตร์ประเด็นนี้ยังคงเอกลักษณ์ของตน โดยแนะนำตัวละครแบบใหม่รวมทั้งเค้าเรื่องใหม่ ดาราแบบใหม่ที่นำโดยไมล์ส เทลเลอร์ เพิ่มเติมพลังใหม่ให้กับแฟรนไชส์ด้วยการแสดงที่สะดุดตาซึ่งเสริมการแสดงของอาจารย์ซ

บทวิเคราะห์

Top Gun Maverick (2022)

Top Gun Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค ได้รับการเชิดชูอย่างมากมายว่าไม่เฉพาะแต่มีรายละเอียดเท่ากันกับต้นฉบับแค่นั้น แต่ว่ายังเหนือกว่าในหลายๆด้านอีกด้วย ภาพยนตร์ประเด็นนี้ได้รับการชื่นชมถึงความลึกล้ำทางอารมณ์ ฉากแอ็กชั่นที่น่าระทึกใจ แล้วก็การแสดงที่จูงใจของอาจารย์ซ นักวิพากษ์วิจารณ์ยกย่องที่ภาพยนตร์ประเด็นนี้เชิดชูมรดกของต้นฉบับในระหว่างที่เพิ่มความล้ำยุคเข้าไป ทำให้เข้าถึงได้ทั้งยังสำหรับแฟนคลับของภาพยนตร์ปี 1986 รวมทั้งผู้ชมกรุ๊ปใหม่

การบรรลุผลด้านบ็อกซ์ที่ทำงาน: ภาพยนตร์ประเด็นนี้ไปถึงเป้าหมายเชิงพาณิชย์อย่างมากมาย โดยการทำรายได้ทั่วทั้งโลกมากยิ่งกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดเยี่ยมในรูปภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2022 การบรรลุผลดังกล่าวข้างต้นได้รับแรงกระตุ้นจากการบอกต่อแบบปากต่อปากในเชิงบวก ภาพที่งดงาม รวมทั้งพลังศิลปินของทอม อาจารย์ซ ซึ่งยังคงล่อใจผู้ชมบ็อกซ์ที่ทำงานได้โดยตลอด

ความเห็นท้ายที่สุด: “Top Gun: Maverick” ไม่ใช่แค่ภาคต่อ แม้กระนั้นเป็นภาพยนตร์ที่น่าเร้าใจแล้วก็สะท้อนอารมณ์ที่สรรเสริญภาคก่อนในระหว่างที่ยังคงรักษาตำแหน่งของตนเองในรูปภาพยนตร์ยุคสมัยใหม่ ด้วยฉากแอ็กชั่นที่น่าละลานตา การแสดงที่ทรงอำนาจ และก็การประสมประสานที่น่าพึงพอใจระหว่างความจำแล้วก็การเล่าเรื่องใหม่ ทำให้แปลงเป็นหนึ่งในรูปภาพยนตร์ที่เด่นของปี 2022 จูงใจทั้งยังแฟนคลับตัวยงรวมทั้งแฟนคลับแบบใหม่

ดาราหนัง

สำหรับความรู้สึกที่มีต่อผู้แสดงเรื่อง Top Gun: Maverick ขอบอกด้วยบริสุทธิ์ใจเลยว่าทางกลุ่มคัดตัวนักแสดงมาดีจริงๆเนื่องจากทุกคนแสดงได้สมหน้าที่รวมทั้งพาความรู้สึกของพวกเราเข้าไปในเรื่องราวได้อย่างถ่องแท้ อย่างที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีก็อาจจะทราบว่า Top Gun นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่บทหินรวมทั้งแสดงยากเรื่องหนึ่งเลย ทั้งยังจำต้องใช้ความสามารถนานัปการด้านมากมายๆแต่ว่าดาราหนังในเรื่องก็สามารถทำออกมาได้อย่างดียิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทอม อาจารย์ซ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีเขาก็ยังคงเป็นดาราที่ฝีดีไม่มีตก ยิ่งแต่ว่าจะสร้างความระทึกใจแล้วก็สนเท่ห์ใจให้แก่แฟนคลับอย่างพวกเราเพิ่มมากขึ้นในทุกวันด้วย

ฉากและก็โทนสี

และก็อีกเรื่องหนึ่งที่พวกเราจะไม่เอ่ยถึงมิได้เป็นฉากของภาพยนตร์ Top Gun: Maverick พูดได้ว่าทำออกมาได้สมเกียรติแล้วก็นับว่าเป็นรางวัลของผู้ชมเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุกฉากทุกตอนเป็นจัดเต็มแบบเล่นใหญ่สุดๆหลายๆคนที่มองรวมทั้งไรเตอร์เองก็อดที่จะอวยหนังหัวข้อนี้มิได้ว่าเป็นที่สุดของหนังแอ็กชันจริงๆนอกจากนั้นทางกลุ่มยังสามารถให้ Mood & Tone ของหนังได้กับอารมณ์ของเรื่องราวและก็นักแสดง ซึ่งจุดนี้ยิ่งเป็นการช่วยปลุกอารมณ์แล้วก็ความรู้สึกของผู้ชมให้เข้าถึงเหตุการณ์ในหนังได้ง่ายเพิ่มขึ้น

กล่าวได้คำเดียวสำหรับหัวข้อนี้ สนุกสนานชิบมากมายกก กรัมไก่ ล้านตัว

Top Gun Maverick (2022)

สนุกสนานจนถึงต้องการมองซ้ำ เป็นภาคต่อที่เหนือกว่าภาคแรกอีก งานมันออกมาดีเลิศๆแต่ว่าอ่านจากเบื้องหน้าเบื้องหลังแล้ว ก็ไม่ฉงนใจเลยจริงๆพ่อทอมมึงทุ่มเทกับประเด็นนี้มากมาย เป็นหนังที่มองได้ทุกคนจริงๆย้ำความเพลิดเพลิน สนุกสนานเต็มที่ แต่ว่าก็ไม่มิได้ทอดทิ้งดราม่า รวมทั้งการที่ภาคนี้เล่นกับเรื่องราวการตายของ Goose ในภาคแรกมันดีแล้วมากมายๆยิ่งช่วยส่งให้ภาคแรกน่าจำขึ้นกว่าเดิมอีก แล้วก็ความเยี่ยมเป็น ภาคนี้ห่างจากภาคแรกเกือบจะ 40 ปี

แต่เขียนบทออกมาให้เชื่อมกันแบบไม่อายเลย ทุกสิ่งทุกอย่างมันพอดีไปหมด อีกทั้งเรื่องความเกี่ยวพันของผู้แสดงนำชายกับ Rooster (อันนี้ดีเยี่ยม) หรือความข้องเกี่ยวของผู้แสดงนำชายกับเพื่อนเก่าอย่าง Iceman (ฉากงานฌาปนกิจศพเป็นดีเช่นเดียวกัน) ชีวิตรักของผู้แสดงนำชาย ส่วนนี้เป็นส่วนที่มาเสริมให้พวกเราได้หัวเราะด้วยรวมทั้งมีมุมสวยๆช่วยทำให้หนังมันครบรสทุกอารมณ์ และก็ท้ายที่สุดมิตรภาพของเหล่านักบิน อันนี้ก็งดงามเช่นเดียวกัน ฉากเล่นวอลเลย์บอลชายทะเลเป็นฉากที่ดีอีกฉากเช่นเดียวกัน ซึ่งมันดีเลิศจริงๆ

นี่เป็นภาพยนตร์ความยาว 2 ชั่วโมง 11 นาที ที่อัดแน่นไปด้วยบทอันตื้นตันซาบซึ้งใจ การฝึกฝนบินที่เคร่งครัด ภารกิจที่โคตรเสี่ยงตาย ทั้งอบอวลด้วยบรรยากาศเก่าๆที่เคยสร้างเอาไว้ในภาคแรก เรื่องราวแต่ว่าครั้งนั้นที่เล่าถึงนักบินผู้มีความรู้และมีความเข้าใจแต่ว่ามีนิสัยมุทะลุแล้วก็มักฝ่าฝืนคำสั่งอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งเขาไม่เคยเลื่อนตำแห่นงไปไกลกว่า ‘กัปตัน’ วันนี้ เขาได้รับภารกิจอีกรอบข้างหลังก่อให้เกิดปัญหา รวมทั้งสิ่งที่เขาได้รับก็คือ …มันจะเป็นภารกิจท้ายที่สุดของเขา

ท็อปกันที่เชื่อมโยงภาคเก่า แต่ว่าทำเป็น ‘ถึง’ กว่า

จะว่าไป ผมก็แทบลืมเรื่องราวในภาคก่อนไปจนถึงเกือบจะหมดไป หลงเหลือไว้บ้างพอกล้อมแกล้ม ทวนความจำก่อนดูหนังไปบ้างนิดหนึ่ง แม้กระนั้นก็พบว่า มันเป็นหนังที่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมองภาคก่อนก็สามารถสนุกสนานแล้วก็อินไปกับเรื่องราวในนั้นได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าดูภาคแรกไปก่อน จะอินและเข้าใจตัวละครได้มากขึ้นไปอีก เพราะเหตุว่าหนังบอกเล่าเรื่องราวของ พีท หรือมาเวอริค ผู้ที่เคยอยู่ในสถานที่เรียนท็อปกันนี่มาก่อน แม้กระนั้นความเป็นมนุษย์ทำอะไรไม่คิดก็เลยไม่เคยเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ส่วนหนึ่งส่วนใดก็เพราะเหตุว่าเขารักในหน้าที่ใน cockpit มากยิ่งกว่านั่งโต๊ะสั่งการ อีกส่วนก็เพราะเหตุว่านิสัยส่วนตัวนี่แหละที่สร้างความอ่อนใจมาหลายต่อหลายที

ถัดมาด้านการเดินเรื่อง ส่วนนี้ก็ดีแล้วไม่มีที่ว่ากล่าวเหมือนกัน อย่างที่บอก ไม่มีฉากไหนน่ารำคาญเลย เล่าดี กระชับเข้าใจง่าย ชี้แจงวิธีการบินให้รู้เรื่องอย่างสบาย นับว่ายอดเยี่ยมจริงๆทำการบ้านมาดี้มากมาย ถัดมาในด้านการแสดง ส่วนนี้ผมเฉยๆนะ ทุกคนแสดงเจริญตามมาตรฐานทั่วๆไป มิได้ดีเวอร์เขียนตรึงใจตรึงตา แม้กระนั้นหนังหัวข้อนี้ความดีมันมิได้อยู่ที่การแสดงยังไง

ด้วยเหตุนั้นการแสดงเอาเพียงแค่เพียงพอปกติทั่วๆไปก็ได้ แม้กระนั้นไปย้ำเรื่องอื่นๆแทน พ่อทอมก็แสดงราวกับเรื่องที่ผ่านๆมา ฟิลเดิมเลย แม้กระนั้นมีอย่างที่คาใจ เพราะเหตุไรพ่อมึงหล่อขนาดนั้นวะ อายุ 59 แล้วนะโน่น ฉากเล่นวอลเลย์ที่เอ็งถอดเสื้อนี่แบบ หุ่นมึงถึงแม้งอปิ้งฟิตเลย หล่ออมตะจริงๆแม้กระนั้นถึงแม้บทจะมิได้ส่งให้โชว์ความสามารถอะไรจำนวนมาก แต่ว่าก็จำต้องให้เรื่องความทุ่มเทของดาราหนังทุกคนจริงๆในประเด็นการฝึกหัดเพื่อมารับบท มันหินมากมายๆประเดี๋ยวติดลิงก์ข่าวสารเบื้องหน้าเบื้องหลังของหัวข้อนี้ไว้ให้ข้างล่าง

ต่อกันที่ “Top Gun: Maverick” (2022) พวกเรามาเจาะลึกในทางมุมเพิ่มกันบ้างดียิ่งกว่า

การถ่ายรูปรวมทั้งเอฟเฟกต์ภาพ คุณลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นความเป็นจริงเป็นจังสำหรับในการสร้างเอฟเฟกต์จริงและก็การถ่ายรูปที่น่าทึ่ง การตัดสินใจใช้เรือบินไล่ส่งจริงรวมทั้งให้เหล่าดารา รวมทั้งทอม อาจารย์ซ ร่วมในฉากการบินจริงนั้นมีผลเสียอย่างยิ่ง ผู้กำกับโจเซฟ วัวสินสกี้รวมทั้งคณะทำงานสร้างได้บันทึกความเข้มข้นของการบินพวกนี้โดยใช้กล้องถ่ายรูป IMAX ระดับสูงด้านในที่นั่งนักบิน ซึ่งทำให้ได้ภาพที่สมจริงสมจังรวมทั้งเหมือนจริง ทำให้ผู้ชมรู้สึกอย่างกับว่าพวกเขาอยู่ตรงนั้นกับนักบิน สัมผัสแรง G ความเร็ว รวมทั้งความสลับซับซ้อนของการต่อสู้ทางอากาศ

ภาพที่งามของภาพยนตร์ประเด็นนี้ได้รับการเสริมแต่งด้วยสถานที่ที่สวยสดงดงามหรู ตั้งแต่ฟ้าสีฟ้ากว้างไปจนกระทั่งแนวเขาอันน่าละลานตา ซึ่งเป็นเบื้องหลังที่เพอร์เฟ็คสำหรับฉากแอ็กชั่น การแสดงโลดโผนทางอากาศประสมประสานกับเอฟเฟกต์จริงทำให้ภาพยนตร์ประเด็นนี้มองสมจริงสมจังและก็สมจริงสมจัง ซึ่งหาได้ยากในรูปภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ยุคสมัยใหม่ที่ใช้เคล็ดลับ CGI เป็นหลัก

เพลงประกอบและก็การออกแบบเสียง

เพลงประกอบของ Top Gun Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค มีหน้าที่สำคัญสำหรับการสร้างความรู้สึกย้อนยุค ด้วยการกลับมาของ “Danger Zone” อันเลื่องลือโดย Kenny Loggins ทำให้ภาพยนตร์หัวข้อนี้เชื่อมโยงแฟนคลับกับภาพยนตร์ต้นฉบับได้โดยทันที นอกเหนือจากนี้ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ยังมีดนตรีประกอบต้นฉบับโดย Hans Zimmer, Harold Faltermeyer แล้วก็ Lorne Balfe ซึ่งผสมดนตรียุคใหม่กับธีมที่เคยชินจากภาพยนตร์ต้นฉบับ

การออกแบบเสียงก็ถูกใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากการบินที่เข้มข้น เสียงคำรามของเครื่องจักรกลเจ็ต เสียงล็อกอาวุธ แล้วก็เสียงกรอบแกรบของแรง G ในโค้งแคบๆได้รับการผลิตสรรค์อย่างประณีตเพื่อผู้ชมจับใจไปกับประสบการณ์ การประสมประสานระหว่างภาพรวมทั้งเสียงสร้างประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่น่าระทึกใจซึ่งยกฐานะฉากแอ็คชั่นโดยรวม

การพัฒนาผู้แสดง: “Top Gun: Maverick”

สะดุดตาในด้านการผลิตมิติทางอารมณ์ให้กับผู้แสดง โดยยิ่งไปกว่านั้น Maverick เขาไม่ใช่คนวิปลาสบิ่นแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่ว่าเป็นคนนึงที่ต่อสู้กับสมัยก่อน เวลา แล้วก็ภาระหน้าที่ของมรดก ความไม่เต็มใจที่จะเลื่อนขั้นของเขาบอกถึงความไม่ลงรอยกันด้านในของเขาได้อย่างดีเยี่ยม—เขาเป็นเพศชายที่อยู่บนอากาศ และไม่มีอะไรที่จะทำให้เขามีจุดหมายในชีวิตได้พอๆกับเขาอีกแล้ว

ความข้องเกี่ยวระหว่าง Maverick และก็ Rooster (Miles Teller) นับว่าเป็นแก่นกึ่งกลางของอารมณ์ในรูปภาพยนตร์ประเด็นนี้ ความรู้สึกตัวว่าตัวเองผิดของ Maverick ต่อการถึงแก่กรรมของ Goose ประจักษ์อยู่ตลอด และก็สัญชาตญาณที่ปกป้องรักษา Rooster ของเขา รวมกับความแค้นของ Rooster นำมาซึ่งพลวัตที่สลับซับซ้อน ความเกี่ยวข้องที่เคร่งเคลียดนี้วางเดิมพันเพิ่มทางอารมณ์ให้กับภารกิจ เนื่องด้วย Maverick จะต้องพบเจอกับความหวาดกลัวที่จะทำให้ลูกชายของ Goose ล้มเหลวในทำนองเดียวกับที่เขามีความคิดว่าทำให้ Goose ล้มเหลว